หน้าแรก
สำหรับ Tiktok
สมัครสินเชื่อต่างๆ
ลงทะเบียน สินเชื่อ
คำถามที่พบบ่อย
Privacy Policy
ติดต่อเรา
X
Blog Details
Home
Blog Details
04/12/2023
74 views
0
ถ้าไม่จ่ายเงิน ไม่ชำระหนี้ หรือ จ่ายช้า จะเจออะไรบ้าง
ถ้าไม่จ่ายเงิน ไม่ชำระหนี้ หรือ จ่ายช้า จะเจออะไรบ้าง
สำหรับเรื่องการ ไม่จ่ายเงิน ไม่ชำระหนี้ จ่ายช้า สินเชื่อในระบบ จะเจออะไรบ้างนะ ซึ่งอาจจะไม่ได้ตรงทุกสินเชื่อ บางที่อาจจะไม่ได้ทำในรูปแบบนี้แป๊ะๆ แต่ก็พอช่วยให้คุณประเมินได้ว่า คุณจะโดนอะไรบ้าง
คลิปนี้ไม่ได้แนะนำให้คุณ หนีหนี้นะครับ แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ผมจะไม่ยุ่งนะครับ
เบื้องต้นแล้ว การที่เราจ่ายช้า บางที่ โทรมาตามทันทีเลย เช่น กำหนดจ่ายวันที่ 25 ของทุกเดือน แต่เดือนนี้ เรายังไม่จ่าย วันที่ 26 เขาติดต่อมาเลย ส่วนใหญ่มักจะติดต่อมาหลังจากที่เราจ่ายช้า 1-14 วัน แล้วแต่ธนาคาร
บอกเฉยๆ อย่างเอาข้อมูลนี้ไม่ใช้อ้างนะครับ บางที่ บางสินเชื่อ บอกว่า จ่ายเลทไป 3 วัน ก็ยังไม่เสียเครดิตนะครับ ซึ่งเขาเขียนไว้ในข้อมูลเลย แต่ยังไง การจ่ายตรงเวลา หรือก่อนเวลา คือเรื่องที่ดีที่สุดนะ
เรื่องการโทรมาทวงหนี้ ก็จะมีค่าธรรมเนียมด้วย
“ค่าทวงถามหนี้งวดแรก ไม่เกิน 50 บาท รอบต่อไปไม่เกิน 100 บาท”
“ค่าทวงถามภาคสนามไม่เกิน 400 บาท”
กรณีมีหนี้ไม่เกิน 1000 บาทห้ามเก็บ
โดยเขาสามารถ โทรถามได้ 1 ครั้งต่อวัน โดยมีช่วงเวลา
วันจันทร์ – ศุกร์ 08.00 – 20.00 น.
วันหยุดราชการ 08.00 – 18.00 น.
โดยจะนับ 1 ครั้ง เมื่อ
-ส่งข้อความทางไลน์ แล้วมีการเปิดอ่าน
-โทรศัพท์หาแล้วลูกหนี้รับสาย และ ทวงหนี้อย่างชัดเจนด้วย
ถ้าคุณไม่รับสาย ไม่อ่าน line เขาก็มีสิทธิ์ ติดต่อมาได้เรื่อยๆเลย
ซึ่งพอเราจ่ายหนี้ช้า ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาทันที
1.ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ ส่วนใหญ่ก็คือเพิ่มราวๆ 3% จากที่เห็น หรือปรับเป็นสูงสุด ของอัตราดอกเบี้ย ที่ 25% หรือ 36% แล้วแต่ว่าเป็นสินเชื่ออะไร
2.ค่าทวงถามนี้ วันละ 50 บาท – 100 บาท ซึ่งตรงนี้บอกเลยว่าแพงมากๆ เพราะคุณกู้เงิน 10,000 บาทที่ดอกเบี้ย 36% ต่อปี ดอกเบี้ยพึ่ง 10 บาทต่อวันเท่านั้นเองนะ ยิ่งใครมียอดแค่หลักพัน ยิ่งหนักเลย
และอีกเรื่องนึงที่คนถามเยอะคือ เวลาสมัครสินเชื่อ มักจะให้ลงชื่อ และ เบอร์โทร คนที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงที่อยู่ที่ทำงาน เบอร์ติดต่อที่ทำงานด้วย
ทำให้หลายคนไม่สบายใจ กลัวธนาคารจะโทรไปหา คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรา
ผมก็จะบอกให้สบายใจครึ่งนึงคือ ถ้าเราจ่ายตรงเวลา ไม่ช้า ไม่เลท ไม่มีปัญหาอะไรเลย นอกจากเขาจะไม่ไปยุ่งกับคนอื่นแล้ว เขายังไม่โทรมาหาเราด้วยซ้ำ 5555
แต่ก็บอกให้ไม่สบายใจ สำหรับคนที่ ไม่จ่ายหนี้ แล้วก็ไม่รับโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ เขาโทรหาคนอื่นแน่นอน เพื่อที่จะติดตามหนี้นะครับ ทำใจได้เลย เพราะเป็นหน้าที่ของเขา
ต่อมา ก็จะเสียประวัติ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เครดิตบูโร ซึ่งเวลาธนาคารจะให้กู้ เขาก็จะไปเช็คประวัติ เครดิตบูโรกันว่า เราเคยจ่ายช้าหรือเปล่า กู้เยอะหรือเปล่า กู้ที่ไหนบ้าง
ที่นี้พอเราจ่ายช้าสักทีนึง คะแนนเครดิตบูโรก็จะลดทันที แล้วเราก็จะไปกู้ที่อื่นยากขึ้น วงเงินที่ได้ก็น้อยลง เพราะเราเสียเครดิตไปแล้วนั้นเอง
แต่ด้วยความที่ว่า เครดิตบูโร เขาให้เป็นคะแนน จาก 999 – 000 ทำให้คนที่จ่ายช้าไป 1 สัปดาห์ ก็จะไม่เสียคะแนนมากเท่ากับคนจ่ายช้าไป 90 วัน
ใครเคยจ่ายช้า 90 วันขึ้นไป จะรู้ว่า การยื่นกู้ที่ไหนไม่ได้เลย มีจริง
แถมประวัติตรงนี้ จะติดตัวไปอีก 3 ปี หรือราวๆ 36 เดือน หลังจากเราจ่ายปกติแล้วด้วยนะ แต่ถ้ายังค้างไปเรื่อยๆ ประวัติก็จะลากยาวไปเรื่อยๆด้วย
สำหรับธนาคาร ตอนเรากู้เงิน ทำบัตรกดเงินสด บัตรเครดิต เขาจะให้เราทำสัญญาข้อตกลงเรื่องนึงคือ ถ้าเราเป็นหนี้ธนาคาร แล้วไม่จ่ายหนี้ พอถึงจุดนึง ธนาคารมีสิทธิ์ที่จะไปเอาเงินในบัญชีอื่นๆ ของเรา ไปหักหนี้แทนได้เลยนะ ก็พอดีมีคนรู้จัก ไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต ของธนาคารนึง 3เดือน ต่อมา เงินในบัญชี ก็หายไปดื้อๆเลย สรุป ธนาคารเอาไปหักหนี้นั้นเอง
เรื่องนี้ ผมไม่คอมเม้นอะไรนะ เพราะผมคิดว่า เราควรจ่ายหนี้ ไม่ว่าจะยืมจาก ธนาคาร เพื่อน พ่อแม่ หรือที่ไหนก็ตาม เราก็ควรจ่ายหนี้นะครับ
พอครบ 90 วัน ก็จะมีหลายกรณีคือ
บางเจ้า อาจจะติดต่อมาให้ย้ายไป คลินิกแก้หนี้ ซึ่งจะช่วยให้ คนที่คิดจะจ่ายเงิน สามารถจ่ายหนี้ได้ เพราะคลินิกแก้หนี้ จะผ่อนได้นานมาก 10 ปีก็ยังมี แถม ดอกเบี้ยต่ำ ราวๆ 3-5% เท่านั้น แต่ก็จะมีข้อแม้คือ ห้ามกู้เงินที่ไหนเพิ่มอีก จนกว่าจะจ่ายหนี้หมด เท่าที่ผมรู้นะ
บางเจ้าก็ขายหนี้ไปให้กับ บริษัททวงหนี้ เลยก็มี แล้วบริษัททวงหนี้ ก็จะหาวิธีต่างๆ ทำให้เราจ่ายหนี้ให้ได้นั้นเองนะ
บางเจ้า ก็ทวงเอง ติดตามหนี้ต่อด้วยตัวเอง
ก็จะมาขั้นตอนการ ฟ้องร้อง ซึ่งเป็นคดีแพ่ง ไม่มีการจำคุก แต่ต้องไปศาลบ่อย อาจตกลงเป็นปีๆ แล้วค่าใช้จ่ายต่างๆที่ตามมากด้วย
บอกเผื่อคนที่ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แล้วคิดว่าจะไม่ไป ศาล ด้วย ถ้าคุณมั่นใจว่า คุณไม่มีอะไรเลยจริงๆ ก็ไม่ไป รอเป็นบุคคลล้มละลายก็ได้ แต่ถ้าคุณมีเงินเดือน มากกว่า 20,000 มี ot โบนัส ทำงาน มีเงินเข้าบัญชี มีเงินจากหุ้น ลงทุน มีบ้าน มีรถ ควรจะไปศาล เพราะว่า เจ้าหนี้ มาศาล แต่ลูกหนี้ไม่มา ทำให้เจ้าหนี้ มีสิทธิ์พูดทุกอย่าง โดยไม่มีลูกหนี้มาขอค้าน ผลคือ อาจจะทำให้มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น รถ บ้าน เงินเดือน โดนหมดนะครับ
แต่ถ้าคุณไปศาล อาจต่อรอง เพื่อของลดดอกเบี้ย ไม่คิดค่าธรรมเนียม จ่ายเงินต้น ชำระคืนอย่างไร จำนวนเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้
สุดท้ายก็เผื่อคนที่รู้จักเรื่อง Hair Cut กะว่าจะลดยอดหนี้สักครึ่งนึง แล้วค่อยจ่ายก้อนเดียว ผมบอกตรงๆนะ มันอาจจะไม่ได้คุ้มขนาดนั้นก็ได้ เพราะ หนี้ที่จะเอามา Hair Cut คือหนี้ที่รวมค่าปรับทวงถามหนี้ รวมดอกเบี้ยปรับ ทำให้มูลค่าหนี้มันสูงมากๆ การที่เขาลดหนี้ให้ ไม่ได้หมายความว่า คุณจะจ่ายหนี้ได้ถูกลง แต่คุณแค่กลับไปจ่ายหนี้เท่ากับตอนที่คุณ กู้เงินมาเท่านั้นเองนะ
ยังไงก็แล้วแต่นะ สำหรับบางคนที่คิดจะ หนีหนี้ไปเลย ผมไม่คอมเมนท์นะครับ เพราะไม่เห็นด้วย
ส่วนคนที่มีปัญหาจริงๆ จ่ายไม่ไหว ผมแนะนำให้รีบไปธนาคารให้เร็วที่สุด เพื่อปรึกษา หรือใช้สินเชื่อรวมหนี้มาแก้ไข ลดค่าผ่อนต่อเดือนนะ เพราะคนส่วนใหญ่ มักจะรอให้มีปัญหา จ่ายไม่ไหวแล้วค่อยมาหาวิธี ซึ่งมันก็ยากแล้ว เสียเครดิตไปแล้วด้วยนะครับ
Post Views:
156
ผ่อนยืมกู้ออม ปัญหาเรื่องเงิน
Leave a comment
ยกเลิกการตอบ
บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป
ผ่อนยืมกู้ออม ปัญหาเรื่องเงิน